สล็อตแตกง่ายแก้ว ซาซ่า วอนอย่าขุดรูปร่วมม็อบ บอกวิกฤตควรสามัคคีกัน

สล็อตแตกง่ายแก้ว ซาซ่า วอนอย่าขุดรูปร่วมม็อบ บอกวิกฤตควรสามัคคีกัน

แก้ว ซาซ่า’ วอนชาวเน็ตอย่าขุดรูปเก่าที่เคยไปร่วมม็อบสล็อตแตกง่าย ยัน! ไม่ขอเกี่ยวข้อง บอกช่วงวิกฤตแบบนี้ทุกคนควรสามัคคีกันมากกว่าการแตกแยก แก้วซาซ่าอนอย่าขุดรูปเก่า – จากวิกฤตโควิด-19 ที่ทวีคูณความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ผนวกกับการบริหารจัดการของรัฐบาล จนประชาชนต้องออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานและแบนเหล่าดาราที่ออกมาเป่านกหวีดกลางม็อบ กปปส. ทำให้เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดรัฐบาลชุดนี้ขึ้น

ล่าสุด (13 ก.ค.) ทางนักร้องสาว ‘แก้ว จรีนา ศิริสิงห’ หรือ ‘แก้ว ซาซ่า’ 

ก็เป็นดาราอีกคนที่ถูกโยงเข้าประเด็นดังกล่าว โดยเจ้าตัวออกมาโพสต์ภาพต้นเรื่องผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว โดยเป็นภาพของเจ้าตัวขณะไปร่วมม็อบ พร้อมแนบแคปชั่น วอนชาวเน็ตอย่าขุดรูปเก่าที่เคยไปร่วมม็อบ ยัน! ไม่ขอเกี่ยวข้อง บอกช่วงวิกฤตแบบนี้ทุกคนควรสามัคคีกันมากกว่าการแตกแยก โดยระบุว่า

“ขออนุญาตชี้แจงเรื่องรูปนี้ให้เคลียร์นะคะ แล้วขออนุญาตจบเลยหลังจากนี้ค่ะ ใช่ค่ะแก้วไปร่วมประชุมงานนั้น แต่สถานการณ์เมื่อหลายปีก่อนมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงนะคะ ขอความกรุณาอย่าขุดเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ ช่วงเวลาวิกฤตแบบนี้เป็นช่วงที่ทุกคนควรมีความสามัคคีกันค่ะ ไม่ใช่ความแตกแยก

ยืนยันขอไม่เกี่ยวข้องนะคะ ขอบพระคุณมากค่ะ และขอบคุณทุกคนที่ส่งข้อความมาให้กำลังใจนะคะ แก้วขอส่งมอบกลับให้ด้วยค่ะอดทนกันนิดนึงเราจะผ่านช่วงเวลาลำบากแบบนี้ด้วยกันนะคะ @thairath @thairathtv @dailynews_ig @dailynews.ent @matichon_weekly @matichononline”

“วันนี้บ้านเมือง ต้องการความช่วยเหลือ โลกเปลี่ยนไปเยอะ คนบางคน ตามไม่ทัน ผมก็พอเข้าใจโลกได้ดี พร้อมให้คำแนะนำ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ เงินเดือนไม่เอา ค่าโทรศัพท์ออกเอง”

ช่วงท้าย นายทักษิณ หรือ โทนี่ วู้ดซัม ยังพูดถึงการเลือกตั้ง ว่า “อะไรที่ดีที่สุดกับประเทศ อย่ามีอคติ ว่า ชอบคนนั้น ชอบคนนี้”

“ต้องมีสติในการคิดให้รอบ รู้ให้รอบว่าบ้านเมืองเป็นอย่างไร ไม่มีใครทำดีถูกต้องทุกอย่าง ดีก็ชมไป ทุกอย่างอยู่ที่ผลการเลือกตั้ง ประชาชน รักใครชอบใครไม่เป็นไร ไม่เหมือนเชียร์บอล ต้องดูว่าประเทศไม่เหมือนทีมบอล ใครจะทำให้ประเทศดีแล้วมองถึงลูกหลาน อนาคตจะอยู่อย่างไร เราจะมีสติ วครเชีวยร์ใครเมื่อไหร่ ไม่เชียร์ใครเมื่อไร่ อยากให้ทุกคนมีสติ ไม่ต้องใช้รักชอบเป็นหลัก”

ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการชื่อดังและผู้ประกาศข่าว เผย Voice TV จ่อจอดำ กสทช.สั่งปรับ อ้างเสนอข่าวกระทบศีลธรรมอันดี-จับผิดโฆษณา วันที่ 13 ก.ค.64 ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการชื่อดังและผู้ประกาศข่าว Voice TV ได้แชร์ข่าวผ่านเพจเฟซบุ๊กของตัวเอง ระบุ “Voice TV จ่อจอดำ! กสทช.สั่งปรับ อ้างเสนอข่าวกระทบศีลธรรมอันดี-จับผิดโฆษณา” จากเว็บไซต์ข่าวสด พร้อมข้อความ

เว็บไซต์ ส่องสื่อ ยังได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมอีกว่า กสทช. ประชุมเป็นครั้งที่ 12/2564 ตรวจสอบพบการออกอากาศรายการ “VOICE GO” เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2564 อาจมีเนื้อหาไม่เหมาะสม ออกอากาศเรื่อง อยู่หยุดขัง จนกว่าจะ #ปล่อยเพื่อนเรา” “หวัง ตุลาการ ไม่รับใบสั่ง เคารพสิทธิมนุษยชน” และ “ผูกโบว์ขาว เรียกสำนัก–คืนความยุติธรรม”

โดยที่ประชุมเสียงข้างมาก ประกอบไปด้วยพลเอก สุกิจ ขมะสุนทร ทำหน้าที่ประธาน กสทช., พันเอก ดร. นที ศุกลรัตน์, พลโท ดร. พีระพงษ์ มานะกิจ, รศ. ประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ และ ผศ.ดร. ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ เห็นชอบให้กำหนดโทษปรับทางปกครอง

ขณะเดียวกันในรายงานข่าว ยังได้อ้างอิงข้อมูลจาก เว็บไซต์ ส่องสื่อ ที่ได้เปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับคำสั่งลงโทษช่อง Voice TV ในครั้งนี้

หมอธีระวัฒน์ เตือน! ข้อกำหนดใหม่ พรก.ฉุกเฉิน ปิดปากคนพูดความจริง

หมอธีระวัฒน์ ได้ออกมาโพสต์ผ่านช่องทางเฟซบุ๊ค โดยทำการเตือน และแสดงความมึนงงต่อข้อกำหนดใหม่ ของ พรก.ฉุกเฉิน ที่มีการเปิดเผยมาล่าสุด ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านช่องทางเฟซบุ๊ค แสดงถึงความมึนงง และทำการเตือนให้ระมัดระวังจากกรณีของข้อกำหนดใหม่ ภายใน พรก.ฉุกเฉิน ที่มีการเปิดเผยมาล่าสุด

ข้อความที่ว่านี้ก็คือ “ระวังกันนะครับ ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่คนพูด อาจตายได้ มองหาอะไร น้อ ที่ชื่นมื่น เวลานี้”

โดยในวันนี้ (12 ก.ค.) ทางเพจเฟซบุ๊ค iLaw ได้ทำการเปิดเผยถึงข้อกำหนดใหม่ภายใน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ได้ทำการห้ามมิให้โพสต์ หรือเผยแพร่ เรื่องราว/ข้อมูล ที่สร้างความหวาดกลัว แต่ก็มีสร้างข้อแม้ไว้ว่าให้รวมถึง สิ่งที่เป็นจริง อีกด้วย ข้อกำหนดที่ว่านี้ จะทำการลงโทษผู้ที่พบว่ากระทำผิดด้วยโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับเป็นเงินไม่เกิน 40,000 บาท

ซึ่งข้อกำหนดที่ว่านี้ ได้มีการเขียนไว้อย่างกำกวม โดยไม่มีการเจาะจงถึงข้อมูลที่เป็นเท็จแต่อย่างใด อีกทั้งยังได้ถูกเพิ่มให้รวมกับข้อความบิดเบือนที่ “กระทบความมั่นคงของรัฐ” และไม่ต้องให้เจ้าหน้าที่เตือนให้แก้ไขก่อน

ทหารบินไปฉีดวัคซีนที่เมกา’ ทบ.โต้ ถูกบิดเบือน ก่อนไปฉีดวัคซีน Astrazeneca และ  Sinovac แล้ว

สืบเนื่องจากกรณีโลกออนไลน์มีการเผยแพร่กลุ่มคล้ายทหารที่สนามบินสุวรรณภูมิ และมีกระแสข่าวว่าเดินทางไปฉีดวัคซีนไฟฉีดวัคซีนไฟเซอร์ที่สหรัฐอเมริกานั้น

ล่าสุดจากเพลง SMART Soldiers Strong ARMY  ออกมาชี้แจงกระแสข่าวดังกล่าวว่า ถูกบิดเบือน ทุกนายฉีดวัคซีนโควิดแล้วก่อนออกเดินทาง

ทบ.ขอแจ้งข้อมูลอีกครั้งเกี่ยวกับ การเดินทางไปสหรัฐของกำลังพล กองร้อยส่งทางอากาศ ที่เดินทางไปร่วมการฝึกกระโดดร่มทางยุทธศาสตร์ (Strategic Airborne Operation) กับ ทบ.สหรัฐ ณ Fort Bragge รัฐนอร์ทแคโรไลนา ระหว่าง 10-26 กค.64 โดยเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าร่วมกระโดดร่มทางยุทธศาสตร์ภายใต้การฝึกร่วมผสมครอบบร้าโกลด์ในปี 2565

มีการกักตัวก่อนไปฝึกในค่ายทหาร และเมื่อไปถึงสหรัฐฯ ก็ปฏิบัติลักษณะเดียวกันตามระบบ Military Trainning Quarantine

กำลังพลทุกนายผ่านการ SWAB test ได้ผลเป็นลบ และ ได้รับการฉีดวัคซีนที่ประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว

โดยสรุปกำลังพลทุกนายได้ผ่านกระบวนการตามมาตรฐานสาธารณสุขในการป้องกัน COVID-19 ทั้งในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา

กองทัพบก ได้เผยแพร่ข่าวการเดินทางไปร่วมการฝึกกระโดดร่มทางยุทธศาสตร์ดังกล่าวมาก่อนหน้านี้แล้ว ตั้งแต่ 7 ก.ค.2564 รายละเอียดตาม

ปอย ตรีชฎา ฟาดมากแม่ ลั่นไม่สนับสนุนเผด็จการ ลบชื่อออกด้วย

ท่ามกลางกระแสคนในวงการบันเทิงออกมา Call out มากมายเกี่ยวกับเหตุการณ์บ้านเมือง ประกาศว่าตนยืนอยู่ข้างความถูกต้อง ประชาธิปไตย แต่ดาราบางคนก็ไม่วายถูกโยงเข้าไปเอี่ยวกับแนวคิดอีกด้าน ล่าสุดอย่างสาว ปอย ตรีชฎา  เพชรรัตน์ ที่ถูกเอาชื่อไปติดอยู่ในลิสต์คนในวงการบันเทิง ที่เพจหนึ่งเขียนขึ้นพร้อมระบุข้อความว่า “รวบรวมรายชื่อ เพื่อน ๆ ในวงการของผมที่ไม่ได้อยุ่ฝ่่ายชังชาติ”

เพียงไม่นาน สาวปอย ก็ออกมาตอบโต้ชี้แจงทันทีผ่าน เฟซบุ๊กของตนเองว่า

“ลบชื่อปอยออกไปด้วยค่ะ ปอยไม่สนับสนุนระบอบเผด็จการค่ะ”

ทำให้แฟน ๆ เข้ามาให้กำลังใจอย่างล้นหลาม ถึงอุดมการณ์การยืนข้างที่ถูกต้องของปอย

ทั้งนี้ ปอย ตรีชฏา เพชรรัตน์ เป็นนางงามที่มีมงกุฎการันตี ระดับบนานนาชาติ ฝากผลงานการแสดงได้อย่างน่าจดจำกับการโกอินเตอร์ในวงการบันเทิงหนังฮ่องกงที่ถือว่าใหญ่ระดับเอเชีย และล่าสุดกำลังศึกษาด้านเคมี เรียกว่าเก่งรอบด้านมากๆ

แต่ที่น่ากังวลไปกว่านั้น คือ ผลของคำวินิจฉัยในวันนี้อาจจะนำพาสังคมไทยมุ่งหน้าไปบนเส้นทางที่น่าเป็นห่วง สิ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญทำในวันนี้เป็นมากกว่าคำวินิจฉัย แต่เป็นการขีดอนาคตประเทศไทยให้เดินไปตามเส้นทางที่สุ่มเสี่ยงและคับแคบ

พรรคก้าวไกลเชื่อเสมอว่า การปกป้องสิ่งหนึ่งไม่จำเป็นต้องทำลายอีกสิ่งหนึ่ง เราสามารถปกป้องสิ่งที่เรารักด้วยการพยายามปรับเข้าหากันบนฐานของเหตุและผล

ประเทศไทยไม่ได้อับจนหนทางขนาดที่ผู้มีอำนาจต้องกอดแน่นอยู่กับอดีต แล้วกระทำต่อผู้คนที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงในฐานะภัยต่อความมั่นคงของชาติสล็อตแตกง่าย