จากกรณีที่ชายรายหนึ่งได้โพสต์ภาพชายวันรุ่น 4 คนหิ้วน้องสาวตนเองที่หมดสติเข้าไปในห้องพักแห่งหนึ่งในย่านดินแดง และระบุว่าน้องสาวน่าจะถูกล่วงละเมิดทางเพศ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา และทางพี่ชายได้เข้าแจ้งความที่สน.ดินแดงไว้แล้ว โดยความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (1 พ.ย.) ที่สน.ดินแดง น.ส.สายไหม (นามสมมติ) แฟนสาวของ นายโก๋ (นามสมมติ) พี่ชายของผู้เสียหายได้เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน
น.ส.สายไหม กล่าวว่าวันเกิดเหตุ น้องผู้เสียหายได้เล่าให้ฟังว่า
น้องได้นั่งดื่มกับเพื่อนอยู่ที่ร้านหนึ่ง และก็ได้คุยโทรศัพท์กับผู้ชายคน 1 ใน 4 ที่ก่อเหตุ ซึ่งคาดว่าน่าจะจีบน้อง แล้วได้ชวนกันไปดื่มต่อที่ร้านแถวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ต่อมาเวลาประมาณเกือบ 03.00 น. ผู้ชายทั้ง 4 คน จะอาสามาส่งที่หอพักในสภาพที่น้องเมาแล้ว
ระหว่างที่น้องหายไป ตนและทางกลุ่มเพื่อนก็พยายามติดต่อน้องตลอด แต่ว่าไม่สามารถติดต่อได้เลย จึงได้มาหาที่ห้องพักเวลาประมาณ 04.00 น. เมื่อมาถึงห้องก็ไม่สามารถเปิดประตูได้ เพราะติดโซ่คล้องด้านใน ขณะนั้นตนได้มองผ่านช่องประตูที่สามารถเปิดได้เล็กน้อย เมื่อมองเข้าไปก็เห็นผู้ชายกำลังถอดเสื้อซึ่งมองไม่ชัดว่าถอดเสื้อน้องผู้หญิงหรือถอดเสื้อตัวเอง
ตนตกใจจึงรีบออกมาข้างนอกเพื่อไปตามเพื่อนที่เหลือเข้าไปช่วย แต่พอไปถึงห้องก็ไม่พบใครแล้ว มาทราบภายหลังว่ากลุ่มเพื่อนได้สวนกับกลุ่มชายทั้ง 4 คน บริเวณหน้าหอพักเมื่อกลุ่มเพื่อนมาเห็นน้องในตอนแรก สภาพน้องคือ นอนเตียง น้ำลายฟูมปาก เสื้อผ้าหลุดลุ่ย ชุดชั้นในไม่ได้ใส่ตะขอ และไม่ได้สวมกางเกงใน แต่สวมกางเกงยีนส์ขาสั้นอยู่ จึงเห็นว่าผิดปกติเลยโทรหาเพื่อนผู้หญิงให้เข้ามาช่วยดู เมื่อเพื่อนมาถึงแล้วก็รีบพาน้องไปส่งโรงพยาบาล
หลังเกิดเหตุ พี่ชายได้พยายามติดต่อหาชายทั้ง 4 คนตลอด แต่ทั้ง 4 คน ยืนยันในความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้เป็นคนก่อเหตุ กระทั่งจนเมื่อวานได้นัดกันมาเจรจาที่ สน.ดินแดง แต่เมื่อถึงเวลานัดก็ไม่มาและก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย
จากผลการตรวจร่างกายจากแพทย์ พบว่า อวัยวะเพศฉีกขาด สันนิษฐานว่าถูกกระทำชำเรา ส่วนสภาพจิตใจขณะนี้อยู่ในอาการเครียด วิตกกังวล ญาติต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดนั้น พบว่า ช่วงเวลา 02.50 น. ชายวัยรุ่นทั้ง 4 คน ได้พาหญิงสาวรายดังกล่าวที่อายุ 18 ปี มายังบริเวณด้านหน้าอาคารห้องพัก ย่านดินแดง ซึ่งเป็นห้องของหญิงสาว และเวลา 02.58 น. ก็ขึ้นมาอยู่บริเวณหน้าห้อง และชาย 4 คน ก็เข้าไปในห้องทั้งหมด ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ในเวลา 03.32 น. กลุ่มผู้ชายทั้งหมดก็เดินออกมาจากห้องพัก โดยสังเกตเห็นว่า 1 ใน 4 คน มีลักษณะกำลังสวมเสื้อคลุมกลับคืน
นอกจากนี้ เมื่อถามว่ามีอะไรฝากถึงมะนาวหรือไม่ แม่มณีก็ตอบว่า “ไม่ขอตอบ จะคุยกับคนที่ต้องการเท่านั้น” จากนั้นก็เดินเข้าห้องขังไป ขณะที่แฟนหนุ่มไม่ตอบคำถามใดๆ แต่มีอาการเครียดจัด เดินวนในห้องขัง
หนุ่มมาเลย์ ถูกอริยิงหน้ากุโบร์กลางเมืองสุไหงโก-ลก
วันนี้ (27 ต.ค.) ช่วงเวลาประมาณ 04.30 น. ตำรวจสภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งเหตุมีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต ที่บริเวณประตูทางเข้ากุโบร์สุไหงโก-ลก ถ.ประชาวิวัฒน์ ซอย 4 เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก โดยพบศพ นายมูฮาเหม็ด ไฟซอล อายุ 28 ปี ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่เมืองรันตูปันยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย
นายมูฮาเหม็ด มีบาดแผลถูกกระสุนปืนที่บริเวณศีรษะ ใบหน้า หน้าอก และขาซ้าย รวม 4 นัด นอนจมกองเลือดอยู่ข้างรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ ซึ่งจอดอยู่ข้างต้นไม้ หน้าบ้านพักเลขที่ 430 ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนพก ขนาด 9 มม. จำนวน 2 ปลอก และปลอกกระสุนปืนพก ขนาด 11 มม. จำนวน 3 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิธารน้ำใจสุไหงโก-ลก ส่งโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียด ก่อนที่จะประสานญาติที่ประเทศมาเลเซีย รับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา
พยานที่อาศัยอยู่บ้านพักบริเวณใกล้เคียงเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายมีเรื่องโต้เถียงอย่างรุนแรงกับชายฉกรรจ์ ประมาณ 5 คน ที่บริเวณประตูทางเข้ากุโบร์ จากนั้นผู้ตายได้วิ่งหนี แต่ถูกชายฉกรรจ์ 2 ใน 5 คน ใช้อาวุธปืนพกคนละกระบอกยิงผู้ตาย จำนวน 5 นัดซ้อน ก่อนผู้ตายจะวิ่งมานอนเสียชีวิตข้างรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านที่จอดอยู่ดังกล่าว ส่วนคนร้ายกลุ่มดังกล่าวได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนหาข้อเท็จจริง และติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการตัดสินใจในวันนั้นลูกได้จ่ายราคาที่ต้องจ่ายมาหลายต่อหลายครั้งไม่ว่าจะเป็นคดีความที่ถูกยัดเยียดการคุกคามสารพัดรูปแบบ กระทั่งข่มขู่เอาชีวิต ลูกได้จ่ายราคาเหล่านั้นมาแล้ว ทุกครั้งที่ลูกจ่ายแม่ไม่เคยปล่อยให้ลูกไปเผชิญกับความโหดร้ายบนวิถีทางไปสู่ประชาธิปไตยโดยเพียงลำพัง แม่มีอ้อมกอดและกำลังใจให้ลูกเสมอถึงวันนี้ราคาที่ลูกต้องจ่ายสำหรับการต่อสู้ได้ขยับสูงขึ้นมาอีกขั้น ลูกจำต้องสละอิสรภาพเพื่อต่อสู้ยืนยันในสิ่งที่ลูกเชื่อ การต่อสู้ครั้งนี้ดำเนินไปในกรงขังคือการต่อสู้กับความบีบคั้นทางร่างกายและจิตใจซึ่งถือเป็นการทรมานที่ไม่ทิ้งร่องรอยบาดแผลให้เห็นได้ด้วยตา เผด็จการศักดินาต้องการทำลายลูกจากภายใน พวกมันต้องการทำให้ลูกสิ้นหวังท้อแท้และอ่อนแรงจนถอดใจออกจากวิธีทางที่เลือกเดิน แต่กระนั้นลูกไม่เคยหมดใจกับวิถีทางที่ลูกเชื่อมั่นศรัทธาเพราะลูกรู้ว่าแม่จะไม่มีวันปล่อยลูกไว้เดียวดายบนวิถีทางที่ยาวไกลและยากลำบาก
แนะนำ : เคล็ดลับต่างๆ | เว็บรวมวิธีต่างๆ How to | จัดอันดับซีรีย์ | รีวิวครีม